การตรวจวัดการใช้พลังงานภายในบ้าน

การตรวจวัดการใช้พลังงานภายในบ้าน

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่การลดการใช้พลังงานจะเห็นเป็นรูปธรรม เนื่องจากว่าเราไม่มีตัวที่จะเช็คว่าตอนนี้เราใช้พลังงานไฟฟ้าไปเท่าไร และหลังจากทำการดำเนินมาตรการประหยัดพลังงานที่เราคิดค้นขึ้นมาเองอย่างเช่นการปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน การปรับตั้งแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ฯ ทำแล้วจะลดพลังงานไปเท่าไร

ในทางทฤษฎี เราอาจจะคำนวณและตีความได้ว่ามีการลดการใช้พลังงานจริง เพราะดูได้จากบิลค่าไฟที่ส่งมาต้นเดือน แต่ก็นั่นแหละลึกในใจแล้ว เราก็มีความสงสัยว่ามาตรการที่เราทำนั้นลดจริงหรือเปล่าหรือลดจากสิ่งที่เราไม่รู้ เราไม่สามารถฟันธงอะไรได้ เพราะว่าเราไม่มีตัวที่จะตรวจจับพลังงานไฟฟ้าเลย

ถ้าเรารู้ข้อมูลปริมาณและลักษณะการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละตัวจากการตรวจวัด ก็สามารถที่จะดำเนินการมาตรการต่างๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้

การนำข้อมูลที่ได้จากการตรวจวัดค่าพลังงานช่วงก่อนและหลังการดำเนินมาตรการมาเปรียบเทียบกัน เราก็จะทราบว่าสิ่งที่เราได้ทำไปนั้นเกิดการประหยัดพลังงานจริงหรือเปล่า และคำนวณมาเป็นเงินจะประหยัดไปได้กี่บาทต่อเดือนและต่อปีได้

การมีเครื่องวัดปริมาณไฟฟ้าจะทำให้เรามีข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่การประเมินอีกต่อไป ทำให้เรามั่นใจที่เราจะดำเนินมาตรการต่างๆ ภายในบ้าน และสนุกไปกับการจัดการพลังงานมากขึ้น

การจัดการพลังงาน

ผลการศึกษาวิจัยระดับนานาชาติพบว่า ผู้ใช้ไฟฟ้าเมื่อทราบข้อมูลการใช้พลังงานของตนเอง จะมีจิตสำนึกที่จะใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและจะหาวิธีต่างๆ เพื่อจะมาเซฟเงินในกระเป๋าตัวเอง นอกจากนี้ผลวิจัยยังกล่าวอีกว่าผู้ใช้กลุ่มนี้สามารถลดการใช้พลังงานลงอย่างน้อย 12 % จากเดิมที่ไม่รู้ข้อมูลการใช้พลังงานในบ้านตนเองเลย

การลดการใช้พลังงานนี้ไม่ได้กระทบการดำเนินชีวิตของผู้อยู่อาศัย เพราะพลังงานที่ลดลงได้นั้นเกิดจากสิ่งที่สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์และสิ่งที่เกินความจำเป็นแทบทั้งนั้น ถ้าถามว่าทำไมก่อนหน้านี้จึงลดไม่ได้ คำตอบก็คือผู้ใช้ไฟฟ้าไม่รู้ข้อมูลว่าตนเองใช้ไฟเป็นอย่างไรและใช้ไปเท่าไรนั่นเอง

สมมติถ้าเราจ่ายค่าไฟเดือนละ 5,000 บาท ลดได้ 12% เท่ากับ 600 บาทต่อเดือน และเท่ากับ 7,200 บาทต่อปี เงินที่ได้กลับมาส่วนนี้เราสามารถนำไปใช้ทำอะไรก็ได้ เช่นเป็นทุนการศึกษาให้ลูก พาครอบครัวไปทานอาหารดีๆหรือพาครอบครัวไปเที่ยวเป็นต้น

ดังนั้นการรู้ข้อมูลการใช้ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อทำให้เราสามารถใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ช่วยประหยัดค่าไฟและมีเงินเหลือในกระเป๋าเพิ่มมากขึ้น